ผิดหรือที่ถนัดซ้าย


        เรื่องของการถนัดซ้ายขวาถือว่าเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานานพอสมควร เพราะส่วนใหญ่คนเรานั้นจะถนัดขวา และมีคนส่วนน้อยที่ถนัดซ้าย ทำให้คนพวกนี้กลายเป็นสิ่งผิดปกติของสังคมไปเลย แต่จริงๆแล้ว เรื่องของซ้ายหรือขวานั้น ไม่ได้เกิดจากตัวบุคคลนั้นแต่ประการได้ แต่การถนัดซ้ายมันเริ่มเกิดมาตั้งแต่เราอยู่ในท้องแม่นั่นเอง เราจะสังเกตได้ชัดเจนขึ้น เมื่อเด็กเริ่มมีอายุเข้าช่วง 2-3 ขวบ ที่เขาเริ่มใช้มือในการตักอาหาร นั่นแหละจะเป็นตัวตัดสินว่าเขาถนัดมือไหน

        ด้วยความที่คนส่วนมากถึง 85 % ในโลกนี้ถนัดขวา ทำให้คนที่นัดซ้ายคิดว่าตัวเองนั้นมีความบกพร่องทางร่างกาย หรือปมด้อยหรือเปล่า ยิ่งคนไทยในสมัยโบราณแล้วยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อเห็นว่าลูกของตัวเองถนัดซ้ายก็เริ่มเกิดความกังวลใจคิดว่าลูกตัวเองผิดปกติ บางคนฝึกให้ลูกใช้มือขวาในการทำกิจกรรม บางคนถึงขั้นลงมือตีเลยทีเดียว แต่จริงๆแล้วการที่เป็นคนถนัดซ้ายนั้น ไม่ได้ผิดปกติแต่ประการใดเลย



        การถนัดซ้าย และขวานั้นอันที่จริงแล้วเกี่ยวข้องกับระบบพันธุกรรม และการสั่งงานของสมอง เช่น คนที่ถนัดขวานั้น สมองซีกซ้ายจะเป็นสั่งงาน และคนที่ถนัดซ้ายนั้นสมองซีกขวาจะเป็นคนสั่งงานนั่นเอง ซึ่งก็จะสอดคล้อง ต่อพฤติกรรมการทำงาน และความคิดของมนุษย์ด้วยเช่นกัน คือ สมองซีกขวาจะให้เรื่องของความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ เราจะเห็นคนที่ถนัดซ้ายส่วนมากจะมีความสามารถด้านศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนถนัดขวา ดังที่เราเคยเห็นเหล่าศิลปินส่วนใหญ่ที่ถนัดซ้าย ส่วนสมองซีกซ้ายนั้นจะมีความสามารถในเรื่องของการค้นหาเหตุ การคิดคำนวน วิเคราะห์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าคนถนัดขวานั้นจะมีมากในเรื่องนี้ เช่น พวกนักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ เป็นต้น เมื่อพ่อแม่รู้เช่นนี้แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องการถนัดซ้ายหรือขวาของลูกเลย เพราะเขาไม่ได้ผิดหรือแตกต่างจากคนทั่วๆไป และยังมีข้อดีที่เพิ่มมาอีกด้วย เช่น เขาสามารถที่จะคิดเรื่องซับซ้อนหรือแก้ปัญหายากๆได้ดี ทำกิจกรรมเคลื่อนไหวพร้อมๆกันหลายอย่างได้ดี มีความสามารถทั้งทางด้านภาษาและกีฬาได้ดีนั่นเอง

        แต่ในเรื่องของการถนัดซ้ายอาจจะมีผลต่อเจ้าตัวบ้างในเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุ เพราะ
ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกผลิตออกมาสำหรับคนที่ถนัดขวา ดังนั้นต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มอีกหน่อย



        เรื่องของความถนัดซ้าย หรือขวานนั้น ยิ่งพ่อแม่กังวลยิ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจของลูก เพราะนั่นเป็นการสรรสร้างมาแล้วจากธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นความผิดปกติแต่อย่างใด ดังนั้นสิ่งที่เราเป็นอยู่ถือว่าดีที่สุดแล้วนั่นเอง

 

 

 


ขอบคุณบทความจาก : เคล็ดลับน่ารู้.com

 

Visitors: 514,884